พริกนั้นจัดเป็นผักชนิดหนึ่ง ที่ช่วยเพิ่มรสชาติที่เผ็ดให้กับอาหาร ซึ่งนิยมใช้ในการประกอบอาหารของหลายๆ ชนชาติ โดยเฉพาะอาหารไทยก็มีพริกชนิดนี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เพราะพริก จะมีสารที่ช่วยกระตุ้นรสชาติของอาหารออกมาได้ แต่เดิมพริกชี้ฟ้านั้น มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาในยุคแห่งการเดินเรือจึงได้มีการค้นพบ และนำเอาพันธุ์ไปขยายปลูกตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วโรค เพราะเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น ในส่วนของประเทศไทย ก็มีการปลูกพริกชนิดนี้ และนำมาประกอบอาหารตั้งแต่ครั้งอยุธยาแล้ว
สำหรับสรรพคุณของพริกชี้ฟ้า ที่มีต่อสุขภาพของคนเรานั้น มีดังนี้
– พริกชี้ฟ้า มีสรรพคุณ ช่วยในการเจริญอาหาร โดยในเมล็ดของพริกจะมีสารที่ทำให้ลิ้นของคนเราเกิดอาการแสบร้อน ช่วยกระตุ้นน้ำลายและเอ็นไซม์บางชนิดออกมาระหว่างรับประทานอาหาร ทำให้สามารถที่จะรับรสชาติของอาหารนั้นๆ ได้ดีมากขึ้น ช่วยให้เจริญอาหารมากกว่าเดิม นอกจากนั้นแล้วการรับประทานพริกชี้ฟ้าเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยในการบำรุงธาตุและแก้กระษัยอีกด้วย
– พริกชี้ฟ้า มีสารแคปไซซิน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง ของการเป็นโรคความดันโลหิตสูง ชเพราะสารที่ว่านี้จะ ทำให้เลือดอ่อนตัว ทำให้เลือดในร่างกายไหลเวียนดีเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น พรกำยังช่วยในเรื่องของการลดความดัน และความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้อย่างชะงัด
– พริกชี้ฟ้า มีสรรพคุณ คือมีส่วนช่วยในการขับเหงื่อ เร่งระบบการย่อยสลายของไขมันในร่างกายได้ โดยความเผ็ดร้อนของเม็ดพริก จะไปช่วยในระบบเผาผลาญ ซึ่งไขมันจะถูกเผาผลาญ และขับออกมาตามรูขุมขนในรูปแบบของเหงื่อ ดังนั้นมันจึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการนำมาประกอบอาหารของคนที่กำลังลดน้ำหนัก แต่ต้องรับประทานให้พอเหมาะ
– พริกชี้ฟ้า มีส่วนช่วยในระบบการย่อยอาหาร เพราะเป็นพริกที่มีไฟเบอร์ หรือกากอาหารที่สูง และเม็ดพริกยังถือได้ว่า มีลักษณะของความเป็นยาระบายอ่อนๆ ดังนั้น การกินพริกเป็นอาหาร จะช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่าย ตลอดจนสามารถกินเพื่อถ่ายท้อง ในกรณีที่เกิดอาการท้องผูก หรืออาการถ่ายยากได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ควรควบคุมการรับประทานให้พอเหมาะ เพราะหากรับประทานพริกชี้ฟ้ามากไปจะส่งผลให้เกิดอาการแสบท้อง ท้องเสียได้
– พริกชี้ฟ้ามีวิตามินซีสูง โดยใน 100กรัม มี Vitamic C มากถึง 144 มิลลิกรัม ทำให้ช่วยในการป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ตลอดจนมีส่วนช่วยในการรักษาอาการหวัด อาการคัดจมูก หรือช่วยละลายขับเสมหะในลำคอได้อย่างชะงัด (แต่ต้องกินทั้งผลและทั้งเมล็ด)
– เม็ดพริก มีส่วนช่วยในการรักษาอาการท้องเสีย อันเกิดจากเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด ตลอดจนช่วยในการปรับสมดุลของระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น
– จากการวิจัยของต่างประเทศนั้นได้ความว่า เม็ดพริก และ ต้นพริก มีสารที่จะช่วยขับปัสสาวะ หรือช่วยรักษาอาการปัสสาวะยากอันเกิดจากหลายๆ กรณีได้ ดังนั้นมันจึงมักถูกนำไปสกัดเอาสารดังกล่าว เพื่อทำเป็นยา ที่ช่วยในการขับปัสสาวะ
– อย่างที่บอกว่า ผล และเมล็ดของพริกชี้ฟ้า มีสรรพคุณในการปรับ ระบบการย่อยอาหาร ดังนั้น มันจึงมีส่วนช่วยในการรักษาอาการแน่นท้อง ท้องอืดและท้องเฟ้อ และขับลมในกระเพาะอาหาร ลดกรดในกระเพาะอาหาร และช่วยขับผายลมในลำไส้ ซึ่งยาที่รักษาอาการดังกล่าว ก็มักจะมีการสกัดมาจากพริกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรกินพริกชี้ฟ้ามากจนเกินไปเพราะอาจส่งผลเสียให้กับร่างกายได้นั่นเอง
– สารแคปไซซินในพริกชี้ฟ้า มีส่วนช่วยลดน้ำตาลในเลือดลงได้ โดยอ้างอิงจากการทดลองในปี ค.ส. 1980 ดังนั้น หากรับประทานพริกชี้ฟ้าอยู่เป็นประจำจะช่วยป้องกัน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างชะงัด
สรุปแล้ว พริกชี้ฟ้า ถือเป็นผัก และวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร และมีสรรพคุณหลายอย่างที่ดีต่อสุขภาพอย่างไม่น่าเชื่อ และหลายๆ คนนั้นมองข้ามไป แต่อย่างไรก็ตาม ควรมีการควบคุมการรับประทานพริกชี้ฟ้าในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากรับประทานเข้าไปมากเกินไป อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้หลายอย่าง โดยเฉพาะกับระบบการย่อยอาหาร ระบบลำไส้ ระบบไต เป็นต้น
ที่มา นานสุขภาพ