ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์

สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวมถึงมลพิษที่มากขึ้นและใกล้ตัวเราทุกขณะ นำมาสู่โรคภัยไข้เจ็บที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับร่างกายของเราที่อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ทุกวัน โดยเฉพาะโรคยอดฮิตของคนเมืองกรุงอย่าง “โรคภูมิแพ้”

 

โดยอาการภูมิแพ้ที่ปรากฏในเด็กค่อนข้างมาก คือ “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” พบได้ในเด็กตั้งแต่ก่อนครบขวบปีจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่พบมากที่สุดในเด็กวัย 6 เดือน-5 ขวบ สาเหตุหลักมาจากการถ่ายทอดพันธุกรรมภูมิแพ้มาจากพ่อแม่ ทำให้ผิวหนังขาดสารให้ความชุ่มชื้นธรรมชาติ ผิวจะแห้ง แดงอักเสบ เป็นขุยสาก ไวเกินต่อสารกระตุ้นภูมิแพ้

อาการของโรคที่เห็นได้ชัดเจน คือ ผิวหนังแห้งคันอักเสบเรื้อรังเป็นๆ หายๆ ในทารกและเด็กเล็กจะมีอาการค่อนข้างรุนแรง ทั้งคัน ทั้งผิวแห้งเป็นขุยสาก มักพบผื่นแดงที่บริเวณใบหน้าโดยเฉพาะ 2 ข้างแก้ม ที่ลำตัว แขน ในบางรายอาจมีปัญหาในการนอนหลับเพราะคันมาก

ส่วนในเด็กโตจะพบอาการแสดงบริเวณข้อพับต่างๆ และยังคงมีอาการคัน หรืออาจจะพบอาการของโรคได้บริเวณรอบดวงตา รอบคอ รอบปาก หรือหลังใบหู มีความเป็นไปได้ที่อาการของโรคจะต่อเนื่องจนถึงวัยผู้ใหญ่ หากเป็นเช่นนั้นจะส่งผลให้เกิดการแพ้จากการสัมผัสสารต่างๆ ได้ด้วย และอาจมีอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้เยื่อบุจมูก ภูมิแพ้เยื่อบุตา เป็นต้น

สำหรับแนวการรักษาแนะนำให้ดูแลผิวหนังให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยการทาสารให้ความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สารกันบูด เพื่อลดการระคายเคืองและลดความเสี่ยงต่อการแพ้ ไม่อาบน้ำร้อนมากหรือนานจนเกินไป รวมทั้งไม่อาบน้ำบ่อยเกินไป พร้อมใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่มีความอ่อนโยน รวมถึงการทาครีมบรรเทาอาการผิวหนังแห้งคันอักเสบ และหมั่นไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

 

ที่มา : thaihealth