ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวน่าสลดใจ ที่นักเรียนสาวชั้น ม.5 เสียชีวิต โดยคาดว่าสาเหตุมาจากการกินยาลดความอ้วน เดี๋ยวนี้ยาอันตรายแบบนี้แทรกซึมเข้าไปถึงกลุ่มเด็กวัยรุ่นอย่างง่ายดาย ผ่านการสั่งซื้อทางโซเชียลมีเดีย หลุดรอดจากการตรวจสอบของหน่วยงานภาครัฐ

กระแสในยุคนี้ยึดติดว่า ความผอม ความขาว คือค่านิยมของผู้หญิงสวย แต่ต้องแลกกับความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ การจำหน่ายผิดกฎหมาย โดยใช้การโฆษณาที่โอ้อวดเกินจริง

"นิตยสารฉลาดซื้อ" เคยทำการสำรวจ "รูปแบบการจ่ายยาลดน้ำหนัก" ของคลินิกบริการลดความอ้วน มีตัวยาที่คลินิกเหล่านี้จ่ายให้ 7 กลุ่ม

1.กลุ่มยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง เป็นยาที่จะไปควบคุมความอยากอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็นตัวยาที่ชื่อ ไซบูทรามีน ซึ่งเป็นยาที่ อย.ถอนทะเบียนออกไปแล้ว ห้ามใช้เด็ดขาดมีผลข้างเคียงรุนแรง

2.กลุ่มยาระบาย เป็นตัวกระตุ้นลำไส้ใหญ่ให้บีบตัวทำให้ถ่ายมากและบ่อยขึ้น ทำให้ผู้ใช้ยารู้สึกเหมือนว่าตัวเองน้ำหนักลดลง แต่ยาระบายไม่ได้มีผลต่อการลดความอ้วน

3.กลุ่มยาขับปัสสาวะ ยาขับปัสสาวะก็เหมือนกับกลุ่มยาระบาย ไม่ได้เป็นยาที่มีผลต่อการลดน้าหนัก แถมถ้ากินโดยไม่จำเป็นจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ร่างกายอ่อนเพลีย

4.กลุ่มยาลดการหลั่งของกรดในกระเพาะ ยานี้ไม่ได้มีผลใดๆ ต่อการลดน้ำหนัก แต่ใช้เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยาลดความอยากอาหาร

5.กลุ่มยาไทรอยด์ ฮอร์โมน เป็นยาเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย น้ำหนักจึงลดลงอย่างรวดเร็ว แต่น้ำหนักที่ลดเป็นน้ำหนักจากมวลรวมของร่างกาย จึงเป็นอันตรายต่อร่างกาย

6.กลุ่มยาลดอาการใจสั่น ปกติเป็นยาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง ที่ถูกจัดมาอยู่ในชุดยาลดความอ้วน เพราะจะมาช่วยลดอาการใจสั่นจากความอยากอาหาร ผลข้างเคียงทำให้อ่อนเพลีย

7.กลุ่มยาที่มีฤทธิ์ข้างเคียงทำให้ง่วงนอน ทำให้ลดความอยากอาหารมีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท

 

ที่มา : thaihealth